วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ดักประเด็น ตอน ศึกษาก่อนด่า "สนช.วิวัฒนาการไดโนเสาร์ วิวัฒนาการวัดไทยในต่างแดน" (5 ก.ค. 59) ตอนที่ 6

เมืองไทย ประเทศของการกล่าวหา เห็นใครดีกว่าไม่คิดพัฒนาตัวเองขึ้นไป แต่เตะสะกัดขาเขาซะงั้น

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับ หายไปซะหลายวัน เนื่องจากติดภารกิจนั่นนี่ตามประสา เข้าเรื่องเลยครับตามที่ผมขึ้นหัวข้อเลยที่ว่า เมืองประเทศของการกล่าวหา เห็นใครดีกว่าก็เตะสกัดขา ไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง ประเทศที่ผู้คนไม่เคารพสิทธิพื้นฐาน ประเทศที่เต็มไปด้วยนักพูด เพ้อเจ้อ  

ดูอย่างวานนี้ มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากสายวิชาชีพสื่อมวลชนท่านหนึ่ง โพสต์ประเด็นการก่อสร้างวัดพระธรรมกายนิวคาสเซิล พร้อมมีการเขียนชี้นำตั้งข้อสงสัยไว้ ประมาณว่า ใช่กิจของสงฆ์หรือไม่? หรูหราฟุ่มเฟือยหรือป่าว? เงินทองมาจากไหน? ซื้อเสร็จใส่ชื่อใคร? พร้อมๆ กับสื่อได้นำไปเล่นข่าว 


และจากประเด็นดังกล่าว มีผู้แสดงความเห็นถึงแนวคิดผีเจาะปากมาพูดของสนช.ท่านนี้ ที่เพิ่งมีวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์ กระทั่งเพิ่งยืนได้ 2 ขา และอีกไม่นานคงเดินออกมาถึงปากถ้ำ โอ๊ยยย เจ็บแสบขนาดนี้ วันนี้จึงขอยกพื้นที่บล็อกให้กับ ดักประเด็น ตอน ศึกษาก่อนด่า "สนช.วิวัฒนาการไดโนเสาร์ วิวัฒนาการวัดไทยในต่างแดน" 

************* 
                         
"ขัดใจตั้งแต่เช้ากับพาดหัวข่าวเรื่องวัดวาอารามในต่างประเทศ...

"อลังมั้ยจ๊ะ? วัดพระธรรมกายนิวคาสเซิล สนช.ถามซื้อแล้วใส่ชื่อใคร"




"อื้อหือ! วัดพระธรรมกายสวิตเซอร์แลนด์ เปลี่ยนโรงแรมบนเขาเป็นศาสนสถาน"



ตามประสาคนรวย เคยไปต่างประเทศ และตามประสาคนจิตใจดีงาม ไปต่างแดนก็สงสัยว่า วัดไทยที่นั่นเป็นอย่างไรกันบ้าง

เพราะเคยไป เคยเห็น จึงเข้าใจ (อย่างน้อยก็มากกว่าคนเขียนพาดหัวข่าวข้างบน) และรู้สึกขัดใจกับทัศนคติแบบไดโนเสาร์ของสื่อไทย ที่ไม่เคยทำการบ้าน ไม่เคยตั้งคำถาม (และแน่นอน ไม่เคยได้คำตอบที่ควรเอามาเขียนให้คนอ่าน) กับคนไทยประเภทเชื่อข่าว เหมือนคนเขียนมันเป็นคนเบ่งเราออกมาดูโลก

อยากเล่าสู่กันฟังว่า

วัดไทยไม่ว่าวัดไหน ล้วนเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยในประเทศนั้น เป็นความปลื้มของชาวพุทธ ที่สามารถไปหยั่งราก เผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ประเทศนั้น ๆ ได้สำเร็จ

การตั้งคำถามงี่เง่า เรื่องความอลังการ การตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับชื่อวัด ซื้อแล้วใส่ชื่อใคร หรือสงสัยว่ามันเป็นวัด เป็นสำนักสงฆ์ หรือเป็นอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามของมนุษย์ที่เพิ่งวิวัฒนาการมายืน 2 ขาได้ (อีกไม่นานคงเดินมาถึงปากถ้ำ) โดยไม่ได้เข้าใจโลกพระพุทธศาสนาในต่างประเทศเลย ยังคงหมกมุ่นอยู่กับอะไรแบบ "ไทย ๆ" 

และคิดแต่ว่า ถ้าสร้างวัดเมื่อไหร่ หรูหราไม่ได้เลย ยิ่งเก่า ยิ่งโทรม ยิ่งดี บางทีจึงมีคนเอาภาพกุฏิพระมาบลัฟกัน ประมาณว่า กุฏิใครโทรม ใครเก่ากว่ากัน พระองค์นั้นน่านับถือ

ฮ่วย...คงเป็นประเทศเดียวในโลกแล้วมัง ที่วัดคุณความดีของพระด้วยกุฏิ

เสพติดช่อฟ้า ใบระกา หางหงษ์ ลายกนก ซะจนไม่ลืมหูลืมตาดูความเป็นจริงในโลกกว้างใบนี้เลย

พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาให้เป็นศาสนาของคนทั้งโลก อยากให้คำสอนแพร่ขยายออกไป คนจะได้หมดทุกข์ มีศีลมีธรรม มีคุณความดี ดังนั้น ยิ่งขยายออกไปมากยิ่งดี ไม่ใช่ให้พระไปเก็บตัวลีบอยู่ในป่า (ป่าสมัยนี้ก็หายากซะด้วย)

เข้าเรื่องดีกว่า...บังเอิญเคยไปวัดที่สวิตมาคราวหนึ่ง เลยรู้ว่า

วัดพระธรรมกายเวลาส่งพระไปเผยแผ่ต่างประเทศ ให้ไปแบบไปตายดาบหน้า คือไปหาทางสร้างวัดกันเอง ห้ามนำเงินจากเมืองไทยไปสร้างเด็ดขาด พระที่ไปสมัยแรก จึงมักเริ่มต้นด้วยการเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ และอาศัยคนไทยมาช่วยดูแลพระ 

จากนั้นก็ค่อย ๆ ชวนคนมานั่งสมาธิ สอนธรรมะ จนนานวันเข้า (หลายปี) คนมามาก ที่ทางคับแคบ ก็หาทางขยับขยาย แรก ๆ ก็ย้ายไปเช่าบ้านที่ใหญ่กว่า พอคนมากก็ย้ายอีก 

ในที่สุดเมื่อเกิดความมั่นใจว่าด้วยกำลังของญาติโยมที่มี น่าจะสร้างวัดปักหลักเป็นที่เป็นทางได้ ตอนนี้แหละ จึงได้กลายมาเป็นวัดอย่างที่ลงข่าวแล้วเข้ามาด่ากัน (ซึ่งอาจใช้เวลาเป็น 10 ปี)

ซึ่งคนที่ด่าวัดเขานั้น ก็คือคนที่กำลังด่าความเพียรพยายามของพระที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจทำงานศาสนา และด่าว่าศรัทธาของคนไทยที่เจียดเงินมาช่วยกันสร้าง เพื่อเป็นที่พึ่งพิงทางใจของพวกเขา

คนด่าพวกนี้ ไม่ทราบกินข้าวกับอะไร ถึงโตมาเป็นคนจิตใจคับแคบอย่างนี้

รู้ไหมครับ... 

กว่าจะได้วัดแบบที่เห็น ต้องใช้เวลานานปีเท่าไหร่ เรี่ยวแรงกำลัง ความสามัคคีของคนที่นั่นขนาดไหน?

การสร้างหรือปรับปรุงวัดแต่ละวัดต้องถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น จะมาใช้เส้นแบบเมืองไทยไม่ได้ ต้องสร้างเอง ติดต่อราชการเอง ไม่มีราชการไทยไปช่วยนะครับ

และเพราะเราไปเผยแผ่ในบ้านเมืองเขา จะเอาแต่ความเป็นไทยไปขายไม่ได้ พระวัดนี้รู้ว่าที่มาต่างประเทศ เพราะจะเอาคำสอนพระพุทธเจ้าไปเผยแผ่ ไม่ได้เอาช่อฟ้าใบระกาหรือความเป็นไทยไปใช้ ท่านจึงปรับตัวให้เข้ากับสังคมของคนที่นั่นได้ด้วย 

ทั้งสิ่งก่อสร้างต้องดูดี (แบบที่เห็นในรูป ที่ต่างประเทศเขาเรียกธรรมดา แต่เมืองไทยเห็นว่าหรูหราไปได้ อยู่กระต๊อบกันจนเคย) ใครเห็นก็อยากมาเยี่ยมเยียน

พระก็ต้องมีศีลาจารวัตร มีมารยาท ไม่เป็นที่น่ารังเกียจของคนในประเทศเขา และแม้วัดจะสร้างอย่างดี แต่ชีวิตหลวงพี่ที่นั่นก็อยู่ง่าย เรียบง่าย ศีลยังครบ 227 ข้อ วัตรปฏิบัติก็เหมือนพระที่อยู่เมืองไทย สวดมนต์ นั่งสมาธิ เทศนาสั่งสอน ศึกษาธรรมะ หาช่องทางเผยแผ่ไปสู่คนประเทศนั้น ๆ ทำงานหนักกว่าพวกเอาแต่ด่าเยอะ

บอกตรง ๆ เห็นวัดนี้ครั้งแรก เห็นพระ เห็นญาติโยมที่นั่น รู้เลยว่า พระพุทธศาสนาปักหลักที่ต่างประเทศได้แน่ เพราะไม่มีอะไรที่เราจะด้อยกว่าเขาเลย ในทางตรงข้าม เรามีคำสอนดี ๆ มีรูปแบบการใช้ชีวิตดี ๆ มีมุมมองชีวิตแบบพุทธ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ และผู้คนในประเทศนั้นไม่เคยเจอ เขาจึงสนใจ อยากเรียนรู้ อยากศึกษา นี่เป็นทางมาของการเผยแผ่ที่แท้จริง

ไปถามดูได้ว่า วัดที่ประสบความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดน คือวัดอะไร??

ตอบให้ว่าคือ วัดพระธรรมกายนี่แหละ

คนไทยครับ พวกคุณถูกเป่าหูว่าพระพุทธศาสนาต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ผิดจากที่เคยได้ยินมาไม่ได้ แต่เคยถามตัวเองไหมว่า คุณรู้จักพุทธศาสนามากแค่ไหนกัน ลองเปิดพระไตรปิฎกอ่านกันบ้าง แล้วจะเห็นว่า พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลผู้เปิดกว้าง ให้โอกาส และหาช่องทางเพื่อเผยแผ่คำสอนอย่างถูกต้องตามธรรมตลอดเวลา

คนไทยถูกเป่าหูเรื่องพุทธศาสนาจากคนไม่กี่คน (ไปลองนับดูสิ ว่าคุณได้อิทธิพลความคิดเรื่องพุทธศาสนามาจากพระกี่รูป คนกี่คน คุณนึกชื่อได้กี่ชื่อ) จนกลายเป็น "ชาวพุทธติดกรอบ" ใจแคบ คอยติเตียนคนที่คิดไม่เหมือนตนเองในที่สุด

ถามกลับดีกว่า ในขณะที่พวกคุณกล่าวหา ตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ตำหนิทุกเรื่องจากแค่ได้้เห็นรูปภาพ และอ่านข่าว พวกคุณได้สร้างคุณประโยชน์อะไรให้กับพุทธศาสนาบ้าง??

ทำทานทุกวันไหม??
ศีล 5 ครบถ้วนดีเป็นปกติหรือไม่??
นั่งสมาธิบ่อยแค่ไหน??

พอถามแบบนี้ คุณก็มักจะตอบว่า "เป็นพุทธด้วยใจ"
คุณก็แถกสีข้างถลอกเรื้อนไปเรื่อย ๆ
เป็นพุทธด้วยใจ ก็จงเก็บความคิดเลว ๆ ไว้ในใจ อย่าได้พ่นน้ำลายออกมาว่าร้ายคนที่เขาทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อศาสนาเลย
ถ้าเห็นวัดแบบนี้แล้วทำเป็นปรี๊ดแตก ก็แสดงว่ายังไม่เข้าใจความเป็นพุทธมากพอ

เริ่มต้นจึงขอแนะนำให้ไปถามตัวเองก่อนว่า...

คุณแยกความแตกต่างของคำว่า "อนาถา" กับความ "มักน้อย สันโดษ" ออกไหม ว่ามันต่างกันอย่างไร??

ถ้าแยกออก คุณจึงจะพอเป็นคนพุทธได้ และคุณจะเริ่มหายสงสัย ว่าทำไมพระพุทธศาสนา จึงเป็นศาสนาที่ทันสมัยที่สุดตลอดกาล และทำไมพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า คำสอนของท่านเป็นอกาลิโก

ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ความเจริญจะมากเท่าไหร่ พุทธศาสนา คือศาสนาที่เหมาะกับโลกใบนี้เสมอ

โชคดีที่เมื่อยนิ้วซะก่อน ไม่งั้นจะด่าต่ออีก 555"

************* 


มันก็เป็นเช่นนั้นแล ผมนี่ปรบมือให้เลย สนช.วิวัฒนาการไดโนเสาร์ ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ นะ เหอ เหอ เหอ ขรำชิหาย

11 ความคิดเห็น:

  1. ที่ถูกต้องคือ ควรชื่นชมผู้ที่มีส่วนร่วมในการขยายพระพุทธศาสนา
    ไปยังต่างประเทศทุกท่านมากกว่าที่จะมาตำหนิกันแบบคนใจคับแคบ

    ตอบลบ
  2. คนเราควรให้กำลังใจให้คนทำดี วัดนี้เจ้าอาวาส ท่านจบสถาปัตย์ สถานที่ประยุกต์ให้เข้ากับผังเมือง ซื้ออาคารเก่ามาทำ การปรับปรุงสถานที่ค่าแรงแพง พระลงแรงทำกันเองด้วยความประหยัด ปัจจัยก็จากญาติโยมที่ต่างประเทศช่วยกัน ทำออกมาสวยงาม น่าจะยินดีที่ได้ช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้คนต่างแดนได้นำความรู้ธรรมะไปใช้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง น่าจะช่วยกันให้กำลังใจพระดีที่ช่วยกันเผยแผ่ธรรมะ ติเตียน คือทำให้ หมดกําลังใจ ติเพื่อก่อ คือการให้คำแนะนำให้ทำได้ดีขึ้นและสมบูรณ์ขึ้น สังคมจะเจริญได้ด้วยการให้กำลังใจกันนะคะ

    ตอบลบ
  3. ถูกใจค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า ของเราเป็น อกาลิโก คือทันสมัยเสมอ ฟังแล้วน่าจะได้คิดและภูมิใจในความเป็นพุทธ

    ตอบลบ
  4. คนอ่านกำลังอ่านได้อารมณ์เป็นมันส์ๆที่เดียวคะ เขียนได้จบไวมาก คนเขียนไม่น่าเมื่อยนี้วซะก่อน...ไม่งั้นคงได้อ่านเพลินเยอะกว่านี้แน่เรยยยย...5555 แต่อย่างไรก็เขียนได้ถูกใจที่สุดคะ..ขอสาธุด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  5. สาธุค่ะ สร้างได้สวยงามมาก เห็นรูปที่นำมาลงแล้วปลื้มมาก โดยเฉพาะพระประธานในโบสถ์ งามมากๆ เห็นภาพแล้วอยากนั่งสมาธิกลั่นจิตใจให้ใสยิ่งใสจริงๆค่ะ ขอกราบนมัสการและเป็นกำลังใจให้พระอาตารย์และเจ้าหน้าที่ตลอดจนผู้มีส่วนในการสร้าง ปรับปรุงบำรุงรักษาค่ะ

    ตอบลบ
  6. เห็นด้วยทุกประการค่ะ ดีใจที่เราเห็นวัดแล้วเกิดความปลื้มภูมิใจและศรัทธาในพระศาสนามากขึ้น แสดงว่าเราไม่ได้อยู่ในจถ้ำ 555

    ตอบลบ
  7. เห็นด้วยทุกประการค่ะ ดีใจที่เราเห็นวัดแล้วเกิดความปลื้มภูมิใจและศรัทธาในพระศาสนามากขึ้น แสดงว่าเราไม่ได้อยู่ในจถ้ำ 555

    ตอบลบ
  8. เห็นด้วยกับทุกท่านที่ชื่นชม ถ้าสังคมรู้จักชื่นชม ยกย่อง ยืดหยุ่น อลุ่มอร่วย มองโลกในแง่ดี ช่วยกันเชียร์ให้กำลังใจผู้ที่ทำความดี และโอกาสผู้ที่ผิดพลาดพลั้งเผลอได้มีกำลังใจปรับปรุงแก้ไขและอยู่ร่วมกันได้ในสังคม โลกกลมๆใบนี้ก็หน้าอยู่ พระพุทธศาสนา สอนให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ใครๆจะบอกว่าเราโลกสวยก็ช่าง แต่จะบอกว่า พระพุทธศาสนาเป็นของจริง พิสูจน์ได้จริง ทันสมัยตลอดเวลา ขอเชิญท่าน มาพิสูจน์เถิด จะได้เป็นผู้รู้แล้วชี้....

    ตอบลบ
  9. ทำดี ความดีย่อมคุ้มครองผู้กระทำ
    แต่ทำชั่ว ทำลายพระพุทธศาสนา...เมื่อชีวิตลำบาก หมดอำนาจ คุณจะอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดคุ้มครอง...


    ตอบลบ