วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กระบวนการยุติธรรมไทย ...เชื่อใจได้....จริงหรือ???

เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าคดีจะสิ้นสุดและพิสูจน์แล้วว่าผิดจริง

หลักกฎหมายสากลที่อารยประเทศทั่วโลกใช้กันคือ...
ไม่ว่าใครก็ตาม จะคดีใดก็ตาม ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งอันนี้ก็ว่าตาม ==ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ มาตรา 11 วรรค 1== เป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก



จับก่อน ลงโทษก่อน พิสูจน์ทีหลัง
อันนี้ไม่รู้หลักอะไร 
แต่เป็นที่นิยมมากในประเทศแห่งหนึ่ง 
ณ ซีกโลกตะวันออกเฉียงใต้ 
โดยเฉพาะยุคที่อำนาจอธิปไตย 
อันประกอบด้วย นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ 
ซึ่งควรแยกกันเป็นอิสระ 
ถูกรวบยอดเบ็ดเสร็จอยู่กับกลุ่มคนในเครื่องแบบ 
ทำตนเป็นทั้งตำรวจ อัยการ ศาล 
และกรมบังคับคดีหรือกรมราชทันฑ์ในคนเดียว



หลายครั้งหลายครา ก็เป็นศาลเตี้ย 
จับมาพิพากษาลงโทษ 
เบ็ดเสร็จกันในสองสามวันเลยทีเดียว

เราก็ได้เห็นได้ยินมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล 
ดูกรณี พระพิมลธรรมสมัย 53 ปีก่อน เป็นตัวอย่าง 
คดีที่เป็นตราบาปแห่งวงการยุติธรรมไทยมาถึงทุกวันนี้


มีมือดีมาโจทก์ท่านว่าเสพเมถุนกับลูกศิษย์ จะจับท่านสึก
ท่านก็ใจเย็น พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนจนสำเร็จ 
มิวายอีก 2 ปีต่อมา เอาเรื่องคอมมิวนิสต์มาให้ท่านอีก 
งวดนี้ล้อมจับกระชากผ้าเหลืองกันคากุฏิ 
ขังคุกแบบผู้ต้องหาไว้ก่อน 

มาพิสูจน์อีกที 4 ปีต่อมาว่าท่านบริสุทธิ์ 
ดีนะว่าท่านไม่ได้กล่าวคำลาสิกขา 
และมีพยานรับรองว่า ท่านถูกกระชากผ้าเหลืองโดยไม่ยินยอม
จึงได้กลับมาครองสมณเพศนับพรรษาต่อไป 
ถ้าเป็นคนไม่ทันกัน ก็คงเสียพระเถระไปหนึ่งรูป ออกจากคุกมา ก็ไปนับหนึ่งวันบวชใหม่ 
นี่ไงตัวอย่าง จับก่อน ลงโทษก่อน พิสูจน์ทีหลัง 

ประวัติศาสตร์คงไม่แคล้วซ้ำรอยกับคดีหลวงพ่อธัมมชโย 
ที่มี รมต.ทหารดำรงความยุติธรรม ออกมาเรียกร้องปาวๆ 
เร่งรัดคดีชนิด จะเอาให้จบในสามวันเจ็ดวัน 

ท่านคงลืมไปว่า...
 ท่านไม่ใช่ “ศาล” 
ท่านไม่ใช่ “ตุลาการ” 
ท่านจะมาก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ 
ขอเลื่อนเพราะอาพาธ ท่านก็ไม่ให้ รู้ดีกว่า “แพทย์” อีก 
ตกลง--เป็นมันซะทุกอย่างในคนเดียว-- 

  มีคดีไหนในประเทศนี้ไหม เสร็จใน 3 เดือน 
ทำไมขยันผิดปกติขนาดนี้

คดีสหกรณ์ เช็ค 800 กว่าฉบับ เงินกว่าสองหมื่นล้าน ไม่สน 
จะเอาเรื่อง 20 ฉบับกับ 600ล้าน ให้ได้ 

เมื่อออกหมายเรียก สื่อมวลชนได้เอกสารลงข่าว ก่อนเจ้าตัวจะรู้อีก 
ท่านทำอะไรไม่เนียน เปิดเผยซะขนาดนี้ 

DSI ของท่านก็พยายามตั้งข้อหา ทั้งๆ ที่คดีเดิม อัยการไม่ตั้งข้อหา เพราะไม่มีมูล ปปง.ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็ยังจะมาตั้งคดีใหม่ ไม่ผ่านอัยการ จะฟ้องได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่โดยประวัติแล้วไม่น่าได้นะ 

แล้วรมต.ไพบูลย์ กับ DSI ต้องการอะไร???

ก็คงหนีไม่พ้น การบิดเบือน ใช้อำนาจโดยมิชอบ
เวลาคนในเครื่องแบบมีอำนาจล้นฟ้า สั่งชี้เป็นชี้ตาย ตั้ง “ศาลเตี้ย” ได้ ขนาดอาพาธยังไม่ให้เลื่อน 

ถ้าโผล่ไปรับข้อหา เดี๋ยวก็ไม่ให้ประกัน 
“ขังก่อน” จับสึกถอดจีวรก่อน 
อีก 10 ปีค่อยมา “ยกฟ้อง” ไม่ผิด 

หลวงพ่อธัมมชโยอายุ 72 แล้ว 
คงไม่มีแรงมาต่อกรย้อนหลังอีก 10 ปีข้างหน้าหรอก

สุดท้าย ก็เอาแนวทางเดียวกับพระพิมลธรรมมาใช้ จับก่อน ลงโทษก่อน พิสูจน์ทีหลัง

9 ความคิดเห็น:

  1. สาธุๆๆค่ะ
    เศร้าจริงๆกับคำว่ายุติธรรมในประเทศไทย

    ตอบลบ
  2. ชั่วหรือดี.. อยู่ที่คุณจะเลือก

    ตอบลบ
  3. ความไม่ชอบธรรมของผู้นำ ที่ไม่ดำรงในธรรม นำมาซึ่งความเดือดร้อนและหายนะ จริงๆ

    ตอบลบ
  4. อย่าให้ประศาสตร์ซ้ำรอยอีกค่ะ

    ตอบลบ
  5. กระทรวงอยุติธรรมอย่าใช้อำนาจที่ปล้นประชาธิปไตยมาต่อยอดทำลายศัทธาชาวพุทธทำลายพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ
  6. สิ่งที่น่ากลัวคือคนมีอำนาจใช้กฎหมายในทางที่ผิด ไม่เป็นธรรม หรือไม่มีคุณสมบัติ

    ตอบลบ
  7. เหตุผลที่วัดพระธรรมกายปฏิเสธ DSI ทุกข้อกล่าวหา
    https://youtu.be/7YUkxARSzho

    พระเทพญาณมหามุณีรับรางวัล 40 ประเทศ 97 รางวัล ในวันคุ้มครองโลก 22-4-59 https://youtu.be/msjLQja-0Cw

    ตอบลบ
  8. ความดีประจักให้ไปทั่วโลก ด้วยรางวัลเฉพาะปีนี้รับมาถึง 97 รางวัล ยังคิดกันไม่ได้อีกหรือ

    ตอบลบ
  9. เรื่องนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยว่ามียุคที่ศาสนาพุทธถูกเผยแผ่ออกไปยังต่างแดนมากที่สุดมีกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่(นำโดยพระสงฆ์นามว่าพระธัมมชโย) อย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นยุคที่สมณะชีพราหมณ์ถูกคุกคามอย่างน่าอดสูเป็นที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประสัติศาสตร์ชาติไทยเช่นเดียวกัน

    ตอบลบ