วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จดหมายเหตุ DSI ตอน ดีเอสไอตกที่นั่ง "ลิงแก้แห" หรือไม่??? ตอนที่ 5 (31 พ.ค.59)

รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หรือ บิ๊กต๊อกวันนี้มาแปลก หลังจากวานนี้มีข่าวคสช. เรียก 2,000 ล้าน จบคดีพระธัมมชโย


วันนี้บิ๊กต๊อกเห็นตามนายกฯ คือ ย้ำให้เจ้าหน้าที่ค่อยๆ ดำเนินการกรณีของพระธัมมชโย นอกจากนี้ยังบอกว่า พระทุกระดับให้ความร่วมมือในการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย 


ขณะที่เช้านี้ พระพุทธอิสระเดินทางไปพบเจ้าคณะภาค 1 ขอให้พิจารณาถอดถอนพระธัมมชโย โดยอ้างว่า เพราะอยู่ในอำนาจปกครอง


ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวตอบรับคำร้องขอกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI โดยได้จัดกำลังไว้แล้ว 4 กองร้อย ส่วนการเข้าจับกุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ โยนให้เป็นอำนาจในการตัดสินใจของ DSI โดยเชื่อว่า DSI มีศักยภาพเพียงพอ


อย่างไรก็ตาม พล.อ.วินธัย สุวารี ในนามโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์บริเวณวัดพระธรรมกายว่า คสช.ไม่ยุ่ง เหตุไม่ใช่การเมือง


ในส่วนของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจดราม่า ปล่อยสัมภาษณ์ "วอนศิษย์ธรรมกายเห็นใจ ประชาชนนับหมื่นหมดตัวคดีสหกรณ์ หวังหาคนผิด เพื่อเอาทรัพย์สินคืนเยียวยา" 


ทั้งที่ก่อนหน้านี้ วัดพระธรรมกายได้ชี้แจงถึงเงินบริจาคดังกล่าว คิดเป็น 5.8% ของจำนวนเงิน 11,695 ล้านบาท และมีเส้นทางการเงินที่ตรวจสอบได้ หากเทียบกับการโอนให้กับอดีตนักการเมือง 2 ท่าน ที่มากถึง 20 % ของเงินทั้งหมด คือ 4,036 ล้านบาท ยังไม่นับรวมกับองค์กรสาธารณกุศลอื่นๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สภากาชาด ฯลฯ


เช่นเดียวกับคุณคำผกา นักเขียน นักแปล คอลัมนิสต์ กล่าวว่า "ถ้าเราซีเรียสกับการฟอกเงินจริงๆ ต้องมีกฎหมายตรวจสอบที่มาของเงินในทุกองค์กร"


ด้านนักวิชาการ อาจารย์ชื่อดังจากม.เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวสั้นๆ ว่า "ถ้าธรรมกายรับของโจร ก็เอาของเหล่านั้นไปบริจาคสิ เหมือนโครงการราชภักดิ์ไง แก้ไขปัญหาแบบนี้ง่ายจะตาย ใครๆ เค้าก็ทำกัน"
(ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://thaipublica.org/2015/12/uttayan-rajabhakti-30-12-2558/)


ในส่วนของความเคลื่อนไหววัดพระธรรมกาย ได้มีการแถลงข่าวโต้กลับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ว่าลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้ตั้งกองทุนช่วยเหลือสหกรณ์ตามจำนวนเงินที่ได้รับบริจาค อีกทั้งที่ผ่านมาทางสหกรณ์ได้ทำหนังสือขอบคุณคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย และถือว่าเป็นหน่วยงานเดียวที่แสดงน้ำใจให้ความช่วยเหลือ"


พร้อมกันนี้ นายองอาจ ธรรมนิทา ในนามลูกศิษย์วัดพระธรรมกายได้ถามหาจรรยาบรรณของสื่อ กรณีนายพุทธ อภิวรรณ พิธีกรรายการต่างคนต่างคิด ช่องอมรินทร์ ใช้ท่าทางไม่เหมาะสมกับแขกรับเชิญขณะสัมภาษณ์ในรายการ 


นอกจากนี้ยังกล่าวว่า "วัดพระธรรมกายไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย หากมีเชื่อว่ามีคนจงใจเอามาไว้" อีกทั้งขณะนี้วัดพระธรรมกายมีการล้อมรั้วลวดหนามเพื่อป้องกันเหตุร้าย

ด้านองค์กรพุทธสงฆ์โลก ส่งหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ใช้สันติวิธีกับคดีพระธัมมชโย

ช่วงบ่ายวันนี้ (วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559) คณะศิษยานุศิษย์เดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อยื่นเอาผิดแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ในกิจกรรมปาร์ตี้เพื่อความบันเทิง Trasher Bangkok เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2559 ที่ Zen Event Gallery เซ็นทรัลเวิล์ด


ขณะที่คุณลีลาวดี วัชโรบล อดีตนักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความที่สภอ.คลองหลวง เอาผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์กับบุคคลที่ตัดต่อและเผยแพร่ภาพอันเป็นเหตุให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง



ด้านสำนักข่าวมติชน ลงบทสัมภาษณ์นพ.ประเวศ วะสี ว่า "กรณีวัดพระธรรมกายคือ ความผิดพลาดของดีเอสไอที่ฟังเสียงบุคคลบางคนเพื่อทำลายองค์กร เมื่อพิสูจน์แล้วว่า ข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง ตรงนี้ก็จะทำให้เสียแนวร่วมไป โดยเฉพาะวัดพระธรรมกายเสียแนวร่วมมหาศาล ทั้งพระ พุทธศาสนิกชน ยังโยงไปถึงการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่จึงไม่เรียบร้อย สะท้อนความคิด ความเชื่อในลักษณะพันกันระหว่างสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ และวัดพระธรรมกาย กรณีรถโบราณ การฟอกเงิน รับของโจร กลายเป็นเรื่องการเมือง ดีเอสไอจึงตกที่นั่ง "ลิงแก้แห" " 

นี้คือความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน ในความพยายามออกหมายจับพระธัมมชโย ของดีเอสไอ ประจำวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ความคืบหน้าอื่นๆ จะเป็นอย่างไร จะนำมาเสนอในวันถัดไป

ติดตามอ่านจดหมายเหตุ DSI ตอนที่ 1-5 ได้ที่นี่

จดหมายเหตุ DSI ตอน ดีเอสไอตกที่นั่ง "ลิงแก้แห" หรือไม่??? ตอนที่ 5 (31 พ.ค. 59) http://goo.gl/5fKCpj

จดหมายเหตุ DSI "เลี้ยงกระแสข่าว สร้างความชอบธรรมในการจับกุมพระธัมมชโย!!!" ตอนที่ 4 (30 พ.ค. 59) http://goo.gl/vJdO8b

จดหมายเหตุ DSI วันที่ 28-29 พ.ค.59 ตอน "ขีดเส้นตายดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยภายใน 3 สัปดาห์" ตอนที่ 3 http://goo.gl/Q5jBSq

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา  ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???" 27 พ.ค. 2559 ตอนที่ 2 http://goo.gl/mEobco


จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1 http://goo.gl/pBpKNs

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จดหมายเหตุ DSI "เลี้ยงกระแสข่าว สร้างความชอบธรรมในการจับกุมพระธัมมชโย!!!" ตอนที่ 4 (30 พ.ค. 59)

เป็นอีกหนึ่งวันของการสร้างประเด็นหาเหตุ สร้างความชอบธรรม เพื่อเข้ามาดำเนินการจับกุมพระธัมมชโย เมื่อหลายสื่อนำเสนอประเด็นทั้งเก่าและใหม่วนเวียนเพื่อเลี้ยงกระแส อาทิ 

1. มาตรการรักษาความปลอดภัยของวัดเพื่อป้องกันมือที่ 3


2.การประชุม มส. ไม่มีการพูดเรื่องวัดพระธรรมกาย
3. DSI ดอดพบเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีการพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่จะมอบเอกสารข้อกล่าวหาพระธัมมชโย แก่ท่าน


4.  การปล่อยข่าวว่า พระธัมมชโยนีออกนอกประเทศ ทั้งที่ท่านไม่มีหนังสือเดินทาง อีกทั้งชราภาพและอาพาธหนัก ไม่สามารถเดินทางไกลๆได้
5. หยิบยกคำพูดพระเกจิอาจารย์ ที่เคยให้ความเห็นกรณีธรรมกาย


ขณะที่เริ่มมีนักวิชาการ (อ.สิโรจน์ คล้ามไพบูลย์) ออกมาให้ความเห็นถึงความเป็นกลางของ DSI เมื่อการประชุมที่ผ่านมา DSI เชิญคุณหมอมโนมาร่วมประชุม ทั้งที่คุณหมอมโนประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับวัดพระธรรมกายอย่างชัดเจน 

คลิกชมวีดีโอสัมภาษณ์ อ.สิโรจน์ คล้ามไพบูลย์

เช่นเดียวกับ ผศ.รท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาตะวันออก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตว่า "เหตุใดจึงไม่ปรึกษาไต่ถามทางคณะสงฆ์เสียก่อนว่า ควรทำอย่างไรกับพระ? ทั้งที่มหาเถรสมาคมได้ตัดสินไปแล้วว่า พระธัมมชโยไม่ปาราชิกแต่อย่างใด...ฯลฯ"

สอดคล้องกับอ.พิศาฬเมธ แช่มโสภา ป.ธ.9 ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรปราการ โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุความตอนหนึ่งว่า "เนื่องจากมีธงอยู่แล้ว ถ้าสึกเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ได้....เอง"

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมยังคงลอยตัว ยันไม่ยุ่งเกี่ยว ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
อีกประเด็นที่มีการพูดถึงในวันนี้ ก็คือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมต.ยุติธรรม ปัดกระแสข่าว คสช. เรียก 2 พันล้านบาท จบคดี "พระธัมมชโย"

อย่างไรก็ตาม ได้มีความพยายามสร้างความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง กรณีพระธัมมชโย กับอดีตนายกทักษิณ ทั้งที่วัดพระธรรมกายยังคงยืนยัน ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง


ทั้งนี้ สำนักข่าวเนชั่น นำเสนอข่าว ระบุ DSI จะขอออกหมายจับพระธัมมชโยภายในสัปดาห์นี้


นอกจากนี้มีข่าวในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า "ปูด! 'บิ๊กดีเอสไอ' ได้รับส่วนแบ่งการขายที่ดิน ศุภชัย 477 ล้าน เผยมีการตั้งกก.สอบฯ แล้ว ผ่านมาปีกว่ายังไม่คืบ"


และนี่คือความเคลื่อนไหวตลอดวันนี้ ความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร มาติดตามในตอนต่อไป...


ติดตามอ่านจดหมายเหตุ DSI ตอนที่ 1-4 ได้ที่นี่

จดหมายเหตุ DSI "เลี้ยงกระแสข่าว สร้างความชอบธรรมในการจับกุมพระธัมมชโย!!!" ตอนที่ 4 (30 พ.ค. 59) http://goo.gl/vJdO8b

จดหมายเหตุ DSI วันที่ 28-29 พ.ค.59 ตอน "ขีดเส้นตายดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยภายใน 3 สัปดาห์" ตอนที่ 3 http://goo.gl/Q5jBSq

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา  ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???" 27 พ.ค. 2559 ตอนที่ 2 http://goo.gl/mEobco


จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1 http://goo.gl/pBpKNs

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จดหมายเหตุ DSI วันที่ 28-29 พ.ค.59 ตอน "ขีดเส้นตายดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยภายใน 3 สัปดาห์" ตอนที่ 3

เผย 5 ขั้นตอนการทำงานของดีเอสไอ ประหนึ่งพระธัมมชโย เป็นอาชญากรแผ่นดิน กระทั่งมีการตั้งข้อสงสัยจากกลุ่มคนทั่วไปถึงความไม่ชอบมาพากล เรื่องพระรับของโจร ตามรายชื่อผู้ตั้งข้อสังเกตที่ปรากฏ โปรดคลิกที่ชื่อ (อรรถชัย อนันตเมฆอั้ม อิราวัต อารีกิจโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร, ผศ.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ)  

สำหรับแผน 5 ขั้นตอนของดีเอสไอที่ปรากฏในหน้าสื่อคมชัดลึก 

และระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559) สื่อพร้อมใจนำเสนอข่าว DSI ส่งโดรน (Drone หรืออากาศยานไร้คนขับ) และเฮลิคอปเตอร์ ใช้สอดแนม สำรวจพื้นที่วัดพระธรรมกาย สอดคล้องกับข้อมูลทางราชการที่หลุดออกมา "ขอสนับสนุนกำลังตำรวจปราบจราจล 4 กองร้อย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ พร้อมคนขับ ระบุปฏิบัติหน้าที่ ณ วัดพระธรรมกาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีความพยายามให้มหาเถรสมาคม โดยสมเด็จช่วง ในฐานะพระอุปัชฌาย์ รวมถึงพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะเจ้าคณะปกครอง ให้เกลี้ยกล่อมพระธัมมชโยเข้ามอบตัว ในเบื้องต้นทั้งสองท่านรับหนังสือแล้ว แต่ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ และแม้หลายฝ่ายจะไม่เห็นด้วยที่จะดึงพระสงฆ์เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ (ติดตามได้ใน จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???")

ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการนำภาพตัดต่อ และข้อความให้ร้ายพระธัมมชโย ออกมาเผยแพร่เป็นจำนวนมาก เช่น คุณวิรังรอง ทัพพะรังสี เปิด line@ (เป็นบริการในการสื่อสารช่องทางใหม่ ที่แยกมาจาก LINE ส่วนบุคคล โดยสามารถให้ Friends มาติดตามเพื่อพูดคุย และรับข่าวสาร) นอกเหนือจากเฟสบุ๊คเพื่อเหน็บแนม ให้ข้อมูลใส่ร้ายพระธัมมชโย รวมถึง Trasher Bangkok ที่จัดขึ้น ณ Zen event gallery เซ็นทรัลเวิล์ด นำภาพอันเป็นเท็จและบิดเบือนของพระธัมมชโย ไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย นำโดยนายองอาจ ธรรมนิทา ประกาศฟ้องผู้จัดงานดังกล่าวท่ามกลางกองทัพสื่อที่เดินทางมาทำข่าว และล่าสุดผู้จัดงานได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว "ขอโทษที่ปล่อยภาพตัดต่อออกไป รวมถึงมีการแต่งกายในเชิงล้อเลียน"


นอกจากนี้ทางคณะศิษยานุศิษย์ได้ประกาศตั้งรางวัลแก่ผู้ชี้เบาะแสผู้นำข้อมูลอันเป็นเท็จใส่ร้ายวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ โดยตั้งรางวัลไว้ที่ 20,000 บาท



ในส่วนของดร.นพ.มโน เลาหวณิช ที่อ้างตัวว่า ในอดีตเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดพระธัมมชโยนั้น นายองอาจกล่าวว่า ให้หยุดกล่าวว่าร้ายพระธัมมชโยด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยเฉพาะท่านเป็นผู้ส่งเสียให้เรียนถึงเมืองนอก กระทั่งมีอนาคตจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ ภาพข่าวที่ให้ร้ายพระธัมมชโย ที่ปรากฏในหน้าสื่อมวลชนอย่างตลอดต่อเนื่อง ส่งผลให้คณะศิษยานุศิษย์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เดินทางเข้ามาปฏิบัติธรรม ให้กำลังใจท่านอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมในแต่ละวัน อาทิ สวดมนต์ไหว้พระ ฟังธรรม นั่งสมาธิ
ซึ่งภาพความพร้อมเพรียง สงบเรียบร้อยในแต่ละกิจกรรม ทำให้สื่อให้ความสนใจนำไปเผยแพร่ภาพข่าวเป็นจำนวนมาก ดังเช่น วันนี้มีกิจกรรมเดินเท้าจากสภาธรรมกายสากล ไปอุโบสถเพื่อสวดมนต์ 


อีกทั้งวันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559) ชาวบ้านตำบลคลองสาม ผู้ที่เคยได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมในปี พ.ศ.2544 ได้มาให้กำลังใจพระธัมมชโย ณ บริเวณด้านหน้าอุโบสถวัดพระธรรมกาย
http://www.posttoday.com/local/central/434479


วัดพระธรรมกาย ช่วยเหลือชาวบ้านคลองสามที่ประสบอุทกภัย ปี 2554

ชาวตำบลคลองสาม ที่มาให้กำลังใจพระธัมมชโย

และจากการให้ข่าวของพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาระบุว่า จะเร่งรัดการดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยให้เสร็จสิ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ http://www.thairath.co.th/content/626735


จึงเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง 
จะเป็นอย่างไร... โปรดติดตามจดหมายเหตุ DSI ตอนต่อไป


ติดตามอ่านจดหมายเหตุ DSI ตอนที่ 1-3 ได้ที่นี่

จดหมายเหตุ DSI วันที่ 28-29 พ.ค.59 ตอน "ขีดเส้นตายดำเนินการจับกุมพระธัมมชโยภายใน 3 สัปดาห์" ตอนที่ 3 http://goo.gl/Q5jBSq

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา  ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???" 27 พ.ค. 2559 ตอนที่ 2 http://goo.gl/mEobco


จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1 http://goo.gl/pBpKNs

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???" 27 พ.ค. 2559 ตอนที่ 2


จากประเด็นที่ทิ้งไว้ กรณี DSI "เตรียมประชุมถกหมายค้น เพื่อจับกุม "พระธัมมชโยมาติดตามกันต่อ

10 โมงเช้าวันนี้  DSI ประชุมร่วมถกหมายค้น และจับกุมพระธัมมชโย มี 4 แผน
1. ทำแผนเข้าไปตามหมายจับ
2. อนุมัติตำรวจเจอที่ไหน จับกุมได้ทันที
3. ทำหนังสือถึงฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับ
4. ใช้ ม. 189 ดำเนินคดีผู้ช่วยเหลือให้ที่พักพิง โดยจะเร่งรัดคดีให้จบภายใน 2-3 สัปดาห์ 

โดยเฉพาะนายแพทย์มโน เลาหวณิชได้เข้าประชุมด้วย และเสนอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง ในฐานะพระอุปัชฌาย์ของพระธัมมชโย เข้ามาเกลี้ยกล่อมให้ท่านมอบตัว

ด้านบิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมต.กระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวแนวทางจับพระเทพญาณมหามุนี โดยบอกว่า "ถ้าต้องเข้าวัดก็ต้องเข้า แต่หากไม่ได้ตัว "ธัมมชโย" ก็สามารถดำเนินการส่งฟ้องได้ แต่อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่า จะรับไม่รับเรื่อง"



ขณะที่วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปัดข้อเสนอให้สมเด็จช่วงเข้ามาเจรจากับพระเทพญาณมหามุนี โดยบอก "ไม่จำเป็น เพราะที่ผ่านมาการดำเนินคดีกับพระภิกษุหลายรูป มหาเถรสมาคมก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง และเป็นหน้าที่ของ ดีเอสไอ ที่จะดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่


สอดคล้องกับบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ที่บอกว่า "เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของดีเอสไอ อย่าไปคิดใส่ใจอะไรให้มาก เรื่องนี้ก็เป็นคดีเล็กๆคดีหนึ่งเท่านั้น" !!!

ด้านวัดพระธรรมกายโดย นายองอาจ ธรรมนิทา และ ร.ท.น.พ.ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ แพทย์ผู้รักษาพระธัมมชโย ได้แถลงข่าวยืนยันอาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุนี โดยบอกว่า "มีอาการป่วยเรื้อรังหลายโรค เช่น  โรคหลอดเลือดดำส่วนลึกที่ขาอุดตันเรื้อรัง เบาหวาน แพ้สารเคมี เกิดแผลเรื้อรังที่เท้า จำวัดหลับๆ ตื่นๆ ขาซ้ายบวมและปวดมาก  ฉันได้น้อย อ่อนเพลีย แพทย์ได้ถวายยาแก้ปวดอย่างแรง โดยรวมอ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแอมาก"

ด้านสื่อเองได้มีการนำเสนอข่าว ศิษย์วัดพระธรรมกายร่วมปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิให้กำลังใจพระเทพญาณมหามุนี พร้อมยืนยันไม่มีแนวคิดขัดขวาง หรือกดดันขบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด

ด้านพระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า "การที่พระเทพญาณมหามุนีไม่ออกมา ผิดกฎหมายทำให้แตกแยก ไม่ยอมรับกติกาสังคม" ??????


ด้านอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ชูชาติ ศรีแสง เห็นแย้งกับบิ๊กต๊อก ประเด็นดำเนินคดีในชั้นศาลที่ว่า แม้ไม่สามารถได้ตัวพระธัมมชโย ก็สามารถดำเนินการส่งฟ้องได้ โดยอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาบอกว่า "พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อหาและไม่ได้สอบปากคำ "อัยการ" ก็ไม่มีอำนาจฟ้องผู้ถูกกล่าวหา"


ล่าสุดวันนี้ (27 พฤษภาคม พ.ศ.2559) ทนายของพระธัมมชโยยื่นอุทธรณ์หลังศาลอาญายกคำร้องขอเพิกถอนหมายจับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอฟังคำสั่งของศาล 


- รวมถึงรอการพิจารณาของแพทยสภาส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานกลางมาตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่าพระเทพญาณมหามุนีอาพาธจริง!!! 
จึงขอให้ดีเอสไอชลอการจับกุม เพื่อดำรงไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรมและมิให้เกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย

และเมื่อค่ำทีผ่านมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ออกรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ ได้หลุดประเด็นชวนสงสัยว่า "ต้องจับหลวงพ่อให้ได้ ถ้าไม่ได้ เราอยู่ไม่ได้"!!!


ติดตามอ่านจดหมายเหตุ DSI ตอนที่ 1 และ 2 ได้ที่นี่

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา  ตอน "ไม่ยอมรับสมเด็จวัดปากน้ำ แล้วจะขอให้ท่านช่วยทำไม???" 27 พ.ค. 2559 ตอนที่ 2 http://goo.gl/mEobco


จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1 http://goo.gl/pBpKNs

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1

นับเป็นหมายเรียกครั้งที่ 3 ที่ DSI แจ้งให้พระธัมมชโยไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เหล่าสานุศิษย์แสดงความรักและเคารพที่ตนเองมีต่อพระเทพญาณมหามุนี ด้วยการมาอยู่วัด เพื่อปกป้องพระเทพญาณมหามุนีจากภยันตรายต่างๆ ตามสติกำลังที่ตนมี ถือว่าเป็นการรวมพลังชาวพุทธ 
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย  คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติในครั้งนี้ผ่านช่องพีซทีวีไว้ว่า "ในวัดมีคนเป็นแสน.."  ขณะที่ลูกศิษย์ทยอยเดินทางมุ่งสู่วัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมปฏิบัติธรรม ให้กำลังใจพระเทพญาณมหามุนี  



ความเคลื่อนไหววันนี้
10.00 น. กองทัพสื่อกว่า 30 สำนัก มารวมตัวกันที่หน้าสำนักสื่อสารองค์กร ในจำนวนนี้มีสื่อบางช่องนำเฮลิคอปเตอร์มาเก็บภาพบรรยากาศภายในวัด

12.00 น. มีการแจ้งว่า พระเทพญาณมหามุนี จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สภอ.คลองหลวง ซึ่งขณะนั้นเหล่าสานุศิษย์ทั้งพระ-เณร และญาติโยมหลายพันรูป/คน ได้เดินทางไปรอให้กำลังใจท่านที่สภอ.คลองหลวง ซึ่งอยู่ตรงข้ามวัด เพื่อเอื้อต่อสุขภาพของท่าน ที่ไม่สามารถเดินทางไกลได้ 



14.30 น. ได้มีการแจ้งว่า ให้มีการรับทราบข้อกล่าวหาที่รถพยาบาลก่อนที่อัยการประกาศว่า "ไม่รับที่ข้างรถ ต้องเอาไปใส่รถของฝั่งดีเอสไอ??? ไปทำเรื่องราวที่โรงพยาบาล (ธรรมศาสตร์)!!!"

ในขณะนั้น สังเกตเห็นรถพยาบาลจากรพ.ตำรวจ 2 คันเข้ามาในบริเวณสภอ.คลองหลวง สร้างความน่าสงสัยอย่างยิ่ง ว่าเหตุใดจึงนำรถพยาบาลของรพ.ตำรวจเข้ามาในพื้นที่??? ทั้งที่พระเทพญาณมหามุนีเพียงแค่เดินทางมาเซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น!!!

จากนั้นรถพยาบาลจากมูลนิธิศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมได้เข้ามาในพื้นที่สภอ. คลองหลวง ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน ต่างเก็บภาพรถดังกล่าว และต่างคาดการณ์ว่า พระเทพญาณมหามุนีจะอยู่ในรถพยาบาลคันนี้ แต่ผิดคาดเมื่อทนายสัมพันธ์ เสริมชีพ เดินทางมาพร้อมผู้ติดตามอีก 2-3 ท่าน ก่อนที่นักข่าวจะเปรยว่า "หลวงพ่อไม่มา"

15.00 น. DSI จัดแถลงข่าวที่สภอ.คลองหลวง แจ้งว่าพระเทพญาณมหามุนีไม่สามารถเดินทางมาได้ เพราะมีอาการป่วยคือ "บ้านหมุน" แต่ DSI ยังพยายามที่จะให้ท่านเดินทางมารายงานตัว พร้อมแจ้งว่าตนเองได้นำรถพยาบาลจากรพ.ตำรวจ พร้อมคณะแพทย์มาด้วย ทั้งยังบอกว่า "ให้เดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ร่วมกัน" 

และหนึ่งในคำถามที่นักข่าวถาม DSI ถึงเหตุผลว่า "ทำไมไม่ไปแจ้งข้อกล่าวหา ตามที่ศิษย์ร้องขอ?"
DSI : "การจะเข้าไปที่รโหฐาน เป็นกุฏิวัด ต้องมีหมายค้นจากศาล"
นักข่าว : ทำไมไม่ขอหมายค้น
DSI :.......
ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ ก่อนที่จะยุติการแถลงข่าวทันที

------------------------




ในช่วงเวลาเดียวกัน ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายจัดแถลงข่าว โดยระบุ 4 เหตุผลที่พระเทพญาณมหามุนี ไม่สามารถเดินทางมารับข้อกล่าวหาที่สภอ.คลองหลวงได้ โดยยืนยันในความบริสุทธิ์และยินดีปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม แต่เนื่องจากขณะกำลังเคลื่อนย้ายจากเตียงผู้ป่วยเพื่อขึ้นรถพยาบาล ท่านได้เกิดอาการอาพาธระหว่างเคลื่อนย้าย โดยมีอาการลมตีขึ้น เวียนศรีษะ หน้ามืด เป็นลม จึงไม่สามารถไปรับทราบข้อกล่าวหาตามเวลาที่แจ้งไว้ในเบื้องต้นได้

ขณะที่มีการแถลงข่าวนี้ คุณวิรังรองหนึ่งในผู้ที่ไม่เข้าใจการทำงานของวัดพระธรรมกาย ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ความตอนหนึ่งว่า "DSI เตรียมจนท.ไปอายัดตัวธัมมชโยที่สภ.คลองหลวง" 

ขณะที่ไทยรัฐทีวีได้มีการสัมภาษณ์นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญา ถึงประเด็นการออกหมายเรียกพระธัมมชโย  ซึ่งนายปรเมศวร์เห็นแย้ง ระบุการแจ้งข้อกล่าวหาไม่จำเป็นต้องเป็นที่ทำงานของพนักงานสอบสวน สามารถดำเนินการแจ้งที่ไหนก็ได้ ที่วัดก็สามารถแจ้งได้เช่นกัน

ขณะที่สื่อเองได้ทวิต ยืนยันว่า "ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญา บอกแจ้งข้อกล่าวหาที่ไหนก็ได้/ดีเอสไอ เข้าไปแจ้งในวัดก็ได้"

ด้าน DSI ได้มีการออกข่าว "เตรียมถกหมายค้น จับกุม "พระเทพญาณมหามุนี" 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ หลังเบี้ยวนัด ยันไม่บุกวัดจู่โจม

-รายงานโดย- "ห่านข่าว"

หากต้องการแชร์ข้อมูลต่อ สามารถคัดลอกลิ้งค์ของจดหมายเหตุฉบับนี้ได้

จดหมายเหตุ DSI แจ้งข้อกล่าวหา "ออกหมายจับ" พระเทพญาณมหามุนี สภอ.คลองหลวง 26 พ.ค.59 ตอนที่ 1 http://goo.gl/pBpKNs

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เรา (เพื่อนแพทย์) มาถึงจุดๆ นี้ได้อย่างไร?

หน้าที่ของหมอ

จุดที่แพทย์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การรักษาของแพทย์ผู้อื่น
อย่างเป็นเรื่องเป็นราวผ่าน social network 
ตามใจความที่ตนเองคิดว่าเข้าใจถูกเพียงส่วนเดียว
ทั้งๆที่ตนไม่ใช่ผู้รักษาคนไข้

จุดที่แพทย์มานั่งดูรูปห้องผู้ป่วยแล้วโพสต์ว่า
ตนเห็นว่าตรงไหนที่ตนคิดว่าผิด 
ไม่ถูกตามที่ตนเองเคยเห็นมา 
และสรุปความว่าผู้ป่วยแกล้งป่วย
โดยที่ตนเองไม่ได้ตรวจผู้ป่วยด้วยซ้ำ

จุดที่แพทย์ (บางคน) โพสต์ข้อความ
แสดงความประสงค์ร้ายให้ผู้ป่วยเจ็บปวดทรมาน
และหมดลมหายใจ ผ่านทางหน้าเฟสของตน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!

อยากวอน...ขอให้
หยุดการกระทำอันเกินเลยต่อวิชาชีพแพทย์ด้วยกัน
เชื่อว่าเราผู้เป็นแพทย์นั้น
ต่างก็หวังให้ผู้ที่ป่วยอยู่หายจากการเจ็บป่วย 
โดยได้รับการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ

เชื่อว่าทั้งแพทย์และผู้ป่วย 
ก็ต้องการให้ต่างฝ่ายต่างเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรี
ของความเป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น

อย่าให้เลยจุดที่เรายังแก้ไขกันได้เลย

จากใจ -หมอคนนึง-

หลวงพ่อมีสิทธิ์อันชอบธรรมในการเลือกรักษา
อ้างอิง : http://www.posttoday.com/social/hot/433647

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หมิ่นวิชาชีพแพทย์หรือไม่??? เมื่อแพทยสภายัน..ทำได้!!!

กดดันกัน...
จนไม่มีแพทย์ในประเทศไทย
กล้าออกใบรับรองแพทย์ให้อีก
กดดันกัน...
จนต้องไปเชิญแพทย์จากต่างประเทศ
มายืนยันกับสังคมว่าท่าน (พระเทพญาณมหามุนี หรือหลวงพ่อธัมมชโย) ป่วยจริงๆ

กดดันกัน...
จนไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากถ่ายทอดสดอาการป่วยให้สังคมเห็น

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้
เราจะอยู่กันแบบใช้อำนาจรัฐ ใช้สื่อมวลชน

กดดันกัน...
จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ
โดยไม่สนใจความถูกต้อง 
ไม่สนใจความชอบธรรม
ไม่สนใจการตรวจสอบความจริง
แบบนี้จริงๆ หรือ ?

หลวงพ่อป่วย
DSI ดำเนินการข้ามขั้นตอนหรือไม่?

ใบรับรองแพทย์จะถือว่าเก๊ หรือเป็นเท็จได้ 
ต่อเมื่อออกให้กับผู้ที่ไม่ป่วย ว่าเป็นคนป่วยเท่านั้น

แต่ในกรณีนี้  
ผู้ป่วยป่วยจริงและไม่สามารถเดินทางไปรพ.ได้  
คุณหมอกรุณามาตรวจให้จริง (มีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน) 
และออกใบรับรองแพทย์ แนะนำข้อควรปฏิบัติให้ตามที่เป็นจริง 
ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์ที่แท้ คือเมตตาธรรม อันเป็นพื้นฐานคุณธรรมของวิชาชีพที่ผู้คนจะต้องมาฝากชีวิตไว้ให้ดูแล 

หากจะมีข้อผิดบ้าง
ก็เพียงแค่ผิดขั้นตอนของโรงพยาบาล
ที่ไม่ได้เอาคนไข้มารับการรักษาภายในเขตโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะการทำอย่างนั้นเป็นอันตรายต่ออาการของคนไข้

การออกใบรับรองแพทย์ของคุณหมอก็ถูกต้องทุกประการ
ตามระเบียบของแพทยสภาว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพและการออกใบรับรองแพทย์ 
ซึ่งในกรณีนี้จะต้องออกจากโรงพยาบาลที่ตนสังกัด
 http://www.tmc.or.th/news_file/tmc-rule-2549.pdf
ดูข้อ 28, 33-35, 39-40

ข้อบังคับแพทยสภา
ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. ๒๕๔๙
ข้อ ๒๘ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วยเมื่อได้รับคำขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้ 
เว้นแต่ผู้ป่วยไม่อยู่ในสภาวะฉุกเฉิน อันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิตโดยต้องให้คำแนะนำที่เหมาะสม

ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน

ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน

ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพึงส่งเสริม และสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน

ข้อ ๓๙ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ใดไปทำการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสถานพยาบาล
มีสิทธิที่จะประกาศหรือยินยอมให้มีการประกาศชื่อของตน ณ สถานพยาบาลนั้นเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานเป็นเวลาแน่นอน 
หรือปฏิบัติงานเป็นประจำเท่านั้น โดยต้องมีข้อความระบุ วัน เวลาที่ไปปฏิบัติงานประกอบชื่อของตนไว้ในประกาศนั้นให้ชัดเจนด้วย

ข้อ ๔๐ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ใดที่ไปทำการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสถานพยาบาล
ถ้ามิได้เป็นผู้ปฏิบัติงานประจำหรือไปปฏิบัติงานไม่เป็นเวลาที่แน่นอน ไม่มีสิทธิที่จะให้มีการประกาศชื่อของตน ณ สถานพยาบาลนั้น 
เว้นแต่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะมีการทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ดำเนินการสถานพยาบาลนั้นๆ 


ท่านนายกแพทยสภาก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า การออกใบรับรองแพทย์นั้นสามารถทำได้แม้ว่าจะตรวจในคลีนิคหรือที่อื่นที่ไม่ใช่ภายในโรงพยาบาล http://www.nationtv.tv/main/content/social/378502394/

เมื่อเป็นเช่นนี้ ควรแล้วหรือที่คุณหมอจะถูกประนามว่าขาดจรรยาบรรณของแพทย์ ??? 

จรรยาบรรณของแพทย์ที่แท้จริงคือจิตเมตตาในการดูแลรักษาผู้ป่วยมิใช่หรือ ??? 

สำหรับวิชาชีพแพทย์แล้ว 
ระหว่าง “ชีวิตของคนไข้” กับ “ขั้นตอนเอกสารของ รพ.” นั้น 
อะไรสำคัญกว่ากัน ???

สรุปว่า คุณหมอ รองผอ. โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี
ควรแก่การประนามจริงหรือ ??? 
หรือควรแก่การยกย่องเชิดชูกันแน่ ??? 

... ประเทศชาติของเราต้องการ “หมอ” แบบนี้ไม่ใช่หรือ ??? 

หรือว่า เราต้องการเพียงคนที่ใช้ชื่อหมอแต่ไม่แคร์ชีวิตของคนไข้เท่ากับขั้นตอนเอกสารของโรงพยาบาล ???



ภญ.รักษ์ธรรม