กรณีการตัดสินใจของทีมงาน DSI ต่อเรื่องของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย บ่งชี้ถึง “อคติ” อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลของการขาดคุณธรรมหลายประการที่ “ผู้รักษาความยุติธรรม” จะพึงมี
ประการแรกคือ ความเคารพ หมายถึงการตระหนักในคุณความดีของใครๆ ตามที่มีอยู่จริง เมื่อขาดคุณธรรมข้อนี้ จึงทำให้ตัดสินคนผิดพลาด เกิดการจับผิด มองคนดีว่าเป็นคนเลว มองบัณฑิตว่าเป็นพาล มองผู้มีศีลว่าไร้ศีล และมองถ้อยคำที่เป็นจริงว่าโกหก เข้าทำนอง “เอาจิตใจคนพาลมาวัดจิตใจของวิญญูชน”
ใครที่ไม่เคยแก่ ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยมีอาการขนาดที่หลวงพ่อเป็น อาจยากที่จะนึกออกว่ามันเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยหากมีสติปัญญาและมีมนุษยธรรมสักนิด ย่อมจะพิจารณาได้บ้างว่า ผู้เฒ่าที่อายุ 72 ปีแล้วนั้น ไม่แข็งแรงเหมือนคนหนุ่มสาว ยิ่งเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ไม่เคยหยุดพักผ่อน ทำงานเพื่อสาธารณชนทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างที่หลวงพ่อวัดพระธรรมกายทำ ยิ่งไม่ใช่เรื่องที่จะหายได้ง่ายๆ นอกเหนือจากอาการเรื้อรังที่เป็นอยู่แล้ว อาการลมตีขึ้นศีรษะ อาการวิงเวียน บ้านหมุน ทรงตัวไม่ได้ ยังเป็นอีกอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และฉับพลัน ... ใครไม่เคยเป็นอาจไม่รู้ ใครเคยเป็นจะรู้ดีว่ามันทรมานขนาดไหน และมันเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้...
แต่ถึงจะเป็นคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เจ็บป่วยอย่างนี้ก็เถอะ ถ้าคิดสักนิดก็จะตัดสินได้ว่า พระท่านย่อมไม่โกหก ในชีวิตของท่านกล้าหาญที่จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่มหาชนมากมาย แม้มันจะแตกต่างจากสิ่งที่คนอื่นคุ้นเคย แต่ตรงกับคำสอนของพระพุทธองค์ แล้วท่านจะมากลัวอะไรกับเรื่องเล็กน้อยแค่ DSI ... และถ้ายังสงสัย ก็หาข้อมูลเพิ่มเติมสักหน่อยก็จะทราบว่า ท่านไม่ได้ออกมาสอนเป็นเวลาสองวันแล้ว ตั้งแต่ 23 เม.ย.59 เป็นต้นมา ... หากยังไม่มั่นใจอีกก็สามารถที่จะส่งแพทย์ไปตรวจได้ ว่าท่านอาการป่วยท่านเป็นอย่างไร แค่ไหน จริงหรือเปล่าที่ไม่สามารถมาได้ แต่กลับไม่ทำ และยังตัดสินในทำนองที่ว่าท่านให้การเป็นเท็จ ซึ่งเป็นการตัดสินไปเองโดยขาดความเป็นธรรม และเป็นการหมิ่นประมาทท่านซึ่งเป็นพระมหาเถระเป็นอย่างมาก
ความจริง ทีมงาน DSI ก็เคยเห็นอาการที่หลวงพ่อเป็นอยู่อยู่แล้วและย่อมทราบดีว่าท่านไม่สามารถที่จะมารับฟังข้อกล่าวหาได้ด้วยตนเอง ... แต่ก็น่าสังเกตว่า ทำไมจึงตัดสินออกมาเช่นนี้ มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่???
ขอความกรุณาท่านผู้ใหญ่ใน DSI ได้โปรดพิจารณาตนเองด้วยค่ะ
มีเพียงคนที่รู้จักให้เกียรติผู้อื่นเท่านั้น จึงจะนับว่าเป็นคนมีเกียรติ
มีเพียงคนที่มี “มนุษยธรรม” ในใจเท่านั้น
จึงควรค่าที่จะเรียกตนเองว่าเป็น "มนุษย์" อย่างสมภาคภูมิ
รักษ์ธรรม
ภาพขาปัจจุบันของหลวงพ่อที่เป็นเป็นแผลเรื้อรังเพราะโรคเบาหวาน
ขาซ้ายมีลักษณะเข้ม คล้ำ และเป็นแผลเรื้อรัง |
ดีเอสไอ ทำไมทำแบบนี้ จะอยู่สร้างบารมีกับหลวงพ่อแม้ต้องเจอความอยุติธรรมจากดีเอสไอก็ตามค่ะ
ตอบลบกราบแทบเท้าถวายกำลังใจพระพ่อผู้มีแต่ความเมตตาต่อพวกเราชาวโลกทุกคน ลูกจะขอสู้เคียงข้างหลวงพ่อด้วยชีวิตค่ะ กราบนมัสการหลวงพ่อด้วยความเคารพ สาธุค่ะ
ตอบลบ***ป่วยเสียขนาดนี้ ยังมีความอดทนมีเมตตาเพียรที่จะสอนลูกๆให้เข้าถึงธรรมด้วยใจใสเบิกบากในการ ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ยังประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
ตอบลบท่านคือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่..
กราบถวายกำลังให้แด่พระพ่อ
ผู้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ที่ประเสริฐ
ควาค่าต่อการกราบไหว้เจ้าค่ะ