วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พุทธอิสระ คนเหนือกฎหมาย




มหาเถรสมาคม หรือ มส. (Sangha Supreme Council of Thailand) เป็นองค์กรสูงสุดในการปกครองคณะสงฆ์ไทยตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 
ทำหน้าที่คล้าย ๆ คณะรัฐมนตรี โดยมีสมเด็จพระสังฆราชหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช   เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง   สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และพระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งไม่เกินสิบสองรูป เป็นกรรมการโดยการแต่งตั้ง


อำนาจหน้าที่มหาเถรสมาคม
มหาเถรสมาคม  ซึ่งเป็นองค์กรปกครองคณะสงฆ์สูงสุด  มีอำนาจหน้าที่ตามความในมาตรา  ๑๕  ตรี  ดังนี้
          มาตรา  ๑๕  ตรี  มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
          (๑)  ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม
          (๒)  ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร
          (๓)  ควบคุมและส่งเสริมการศาสนศึกษา   การศึกษาสงเคราะห์    การเผยแผ่   การสาธารณูปการ  และการสาธารณสงเคราะห์  ของคณะสงฆ์
           (๔)  รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา
       (๕)  ปฏิบัติหน้าที่อื่น  ๆ  ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้  หรือกฎหมายอื่น

            เพื่อการนี้  ให้มหาเถรสมาคมมีอำนาจตรากฎมหาเถรสมาคม  ออกข้อบังคับ  วางระเบียบ  ออกคำสั่ง  มีมติหรือออกประกาศ  โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายและพระธรรมวินัย  ใช้บังคับได้  และจะมอบให้พระภิกษุรูปใด  หรือคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามมาตรา  ๑๙  เป็นผู้ใช้อำนาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่งก็ได้"
https://th.wikipedia.org/wiki
www.watmoli.com/vittaya-2-chapter-1/part-5.html



ออกหมายจับพุทธอิสระ
ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์  นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  แถลงกรณีที่หลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส.  ได้นำมวลชนขัดขวางการเลือกตั้งในพื้นที่เขตหลักสี่ วันที่ 1 ก.พ.ทำให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส.และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  ทำให้ทางสำนักพุทธฯ เกิดความไม่สบายใจ  จึงทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ดำเนินการนิมนต์หลวงปู่พุทธะอิสระไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะไม่สมควรที่จะไปกระทำการร่วมกับการชุมนุม เพราะถือเป็นการทำผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลวงปู่พุทธอิสระแต่อย่างใด

จึงแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประสานพูดคุยไปอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดจึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยประชาชนที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย   คณะสงฆ์จึงสรุปว่า หลวงปู่พุทธอิสระได้ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้ชุมนุมและชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมายและล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธะอิสระมาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่พุทธะอิสระ มีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน ขอชี้แจงว่าทางสำนักพุทธไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
มติชนออนไลน์ 4ก.พ.57

ศาลอาญาออกหมายจับ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ขวางเลือกตั้งล่วงหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ชี้หลักฐานชัดเจน...วันที่ 6 ก.พ. 57 ศาลอาญามีคำสั่งออกหมายจับ พระสุวิทย์ ธีรธัมโมหรือ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และเป็นแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) เวทีแจ้งวัฒนะ ฐานขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าเขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
ศาลพิเคราะห์จากพยานบุคคลและวัตถุพยานภาพถ่าย ภาพวิดีโอที่นำมาประกอบการเบิกความแล้วเห็นว่า หลวงปู่พุทธะอิสระมีความผิดตามคำร้องของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง จึงอนุมัติหมายจับ

นอกจากหมายจับเรื่องขัดขวางการเลือกตั้งแล้ว หลวงปู่พุทธะอิสระยังมีหมายจับฐานกบฏอีกด้วย.

ไทยรัฐออนไลน์ 6ก.พ.57, 29 ก.ค.57




นำข่าวเมื่อปี 57มาเตือนความจำคนไทยอีกครั้ง ผ่านไป 2ปี ก็ลืมแล้วว่าบุคคลคนนี้ได้สร้างความเดือดร้อนและเสียหาย ให้แก่บ้านเมืองและประชาชนมากมาย มีหมายจับชัดเจน แล้วทำไมตำรวจ หรือ DSI จึงไม่จับ ผู้ต้องหาเดินลอยนวลยังคงทำความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แม้กระทั่งพระสงฆ์ระดับชั้นผู้ปกครองสูงสุด(มส.)ก็ไม่เว้น   แล้วพระสงฆ์ท่านจะพึ่งใคร ในเมื่อ ผู้รักษากฎหมายไม่รักษากฎหมาย ฝากให้ช่วยคิดกันครับ

ตะบองเพชร


#รถหรู #ดีเอสไอ #รับของโจร

ไม่มีความคิดเห็น: