วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รับถวายหรือรับของโจร

พระพุทธศาสนานี้อยู่ได้ด้วยการให้ กับอะไรที่เรียกว่ารับของโจร


มีข่าวว่าทางดีเอสไอจะเอาผิดเจ้าอาวาสวัดดังวัดหนึ่งแถวปทุม ฟังแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะข้อหาที่จะกล่าวหาท่านคือ รับของโจร ฟังแล้วก็น่าตกใจเพราะถ้ามองแบบง่ายๆ เป็นพระ เป็นหลวงตา ต่อไปนี้ต้องระวังเรื่องรับถวายแล้วหรือ พระพุทธศาสนาอยู่ได้ด้วยการให้ หากไม่มีญาติโยมมาทำบุญแล้ว พระเจ้าจะอยู่ได้อย่างไร แล้วโยมเองก็จะไม่มีที่พึ่งทางใจให้เมื่อยามทุกข์โศก ในฐานะผู้เขียนก็เป็นเด็กวัดคนหนึ่ง จึงต้องไปเปิดสมุดตำรากฎหมายกันหน่อย จะผิดถูกอย่างไร ก็อย่าว่ากันนะครับ

เมื่อไปเปิดดูกรณีเหตุการณ์รับของโจร คือผู้ต้องหานั้นต้องเป็นผู้ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไป ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด และต้องรู้ว่าทรัพย์นั้นได้มาจากการกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างใน ๙ อย่างคือ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก และเจ้าพนักงานยักยอก แต่หากไม่รู้ก็ไม่มีความผิดฐานรับของโจร พอฟังประโยคสุดท้ายแล้วเริ่มสบายใจ เพราะหลวงตาที่วัดผม ท่านคงพ้นผิดแน่เพราะท่านต้องไม่ทราบแน่นอนว่าโยมเอาเงินมาจากไหนเพราะจะมีเจ้าอาวาสองค์ไหนบ้าง ที่จะถามโยมว่าเอาปัจจัยมาจากไหน ถ้าถามจริงโยมคงไม่พอใจเป็นแน่เพราะเหมือนกับการไม่ให้เกียรติกันและคงไม่อยากมาทำบุญอีก ถึงตอนนี้ผู้เขียนก็ไม่ได้ทราบข้อมูลจากข่าวข้างต้นนัก แต่พอจะเข้าใจท่านเจ้าอาวาสนะ


หากมีโยมมาถวายอย่างไรก็ต้องรับไว้ ถ้าไม่มีปัจจัยท่านจะเอาเงินจากไหนดูแลวัดโดยเฉพาะครั้งที่ผู้เขียนเคยไปวัดแถวปทุมนั้น วัดท่านก็ใหญ่มาก พระก็เยอะศาสนาสถานหลัก ๆ มีหลายแห่งเช่น เจดีย์ ศาลาหลังใหญ่ วิหาร เป็นต้น ท่านคงต้องใช้เงินมากในการดูแลและคงไม่ทราบหรอกว่าเงินมาจากไหน ขนาดเราอยู่วัดบ้านนอกยังไม่รู้เลย แต่รู้ว่าแต่วัดมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากพอควร ผู้เขียนขอให้ทุกคนที่ได้อ่านได้วางใจเป็นกลาง จับมองแต่แง่ดีที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาเพราะเรารู้ว่า พระพุทธศาสนาอยู่ด้วยการให้ รวมถึงความรัก ความให้อภัย มีเมตตา เคารพและเข้าใจซึ่งกันและกัน


ถิ่นธรรม ถิ่นไทย