“ลุกมาสู้เพื่อสังฆมณฑล” นี้เป็นแคมเปญใหม่ที่ติดแน่นอยู่ในใจคนไทยทุกคนแล้ว แค่รอเวลาลุยแค่นั้น ซึ่งสัญญาณนี้ได้คุกรุ่นขึ้นมาแล้วจากพระผู้ใหญ่หลายท่าน ที่จะไม่ทนกับกลุ่มผู้มีอำนาจที่ยืนอยู่เหนือกฎหมายและคณะสงฆ์
พระสงฆ์ท่านแรกที่ออกมาคือ พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ประกาศชี้ชัด “ดีเอสไอ จี้ ม.ส. ดำเนินการปรับอาบัติของพระ เป็นการขยายขอบเขตของตนเองสั่งหน่วยงานราชการ และคณะสงฆ์ตามที่ตนเองวินิจฉัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่จะอันตรายมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
ล่าสุดมาจาก พระราชปัญญามุนี เจ้าคณะจังหวัดยะลา ซึ่งได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “มีบางกลุ่มบางคนอย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ถามว่า “คิดได้อย่างไร มหาเถรสมาคมมีแต่ช่วยเหลือพระสงฆ์และประชาชน โดยเฉพาะกับพระ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการรักษาพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ พระพุทธะอิสระ ก็ด้วย "นายไพบูลย์ และพวกเคยทำประโยชน์อะไรแก่พระพุทธศาสนาบ้าง หรือลงมาดูดำดูดีพระสงฆ์ชายแดนใต้บ้างไหม? หรือมีแต่หาเรื่องทะเลาะกับพระและโจมตีพระ หรือว่าท่านได้ประโยชน์อะไรจากการทำให้พระพุทธศาสนาอ่อนแอหรือเปล่า?"
เราชาวพุทธรู้แล้วพึงทำอย่างไร เมื่อมีคนมุ่งจะทำลายสังฆมณฑลอันเป็นเสาหลักของศาสนาพุทธ
ทะเลที่เงียบนั้นน่ากลัว รอเวลาซัดกระหน่ำ แม้หน้าผาแข็งย่อมทลายยับ บัดนี้คณะสงฆ์และชาวพุทธนับล้านจะไม่เงียบ จะพร้อมลุกสู้ ขอพึงระวัง!!!
ถิ่นธรรม ถิ่นไทย