ตอนที่ ๑
กระแสสังคมตอนนี้ ผู้คนต่างสับสนกันไปหมด ไม่รู้จะเชื่อใครฟังใคร?
เพราะโยมบางคน ก็ตั้งตัวเป็นผู้รู้ พระธรรมวินัยยิ่งกว่าพระ ทำตัวรู้พระธรรมวินัยไปซะหมด ทั้งที่ความจริงคนที่มาพูดวิจารณ์แต่ละคนนั้น แค่ศีล ๕ ก็ยังจำสลับข้อ แต่ที่หนักไปกว่านั้น คนที่มีศีลมีธรรมกลับมาชี้โทษพระไม่ใช่พระบวชใหม่ แต่เป็นพระมหาเถระผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม จบเปรียญธรรม ๙ ประโยค เทียบเท่าทางโลกคือ จบดร. ดังนั้นพระมหาเถระเหล่านี้ ท่านมีสติปัญญาที่แจ่มใส เฉลียวฉลาดกว่าคนที่เต็มไปด้วยกิเลสอันหยาบหนามากนัก
ดูโยมแต่ละคนผมนี่อึ้งเลยครับ!!!
ยกตัวอย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ศิษย์เอกโพธิรักษ์ มาพร้อมความแค้นอัดแน่นกับมหาเถรสมาคม ที่เคยมีมติขับสันติอโศกออกจากวงการคณะสงฆ์ งานนี้แกกะมาแก้แค้นแทนอาจารย์ ส่วนวัดพระธรรมกายที่แกแค้นนักแค้นหนาเพราะว่าวัดพระธรรมกาย ไม่ช่วยสันติอโศกถล่มมหาเถรสมาคมในคราวที่แกโดนคดี
ส่วน นายมโน ที่คนวัดพระธรรมกายให้ฉายาว่า จอมเนรคุณ หรือมโนเพี้ยน แกก็ตามจองล้างจองผลาญวัด ใครโจมตีวัดแกจะเข้าร่วมกลุ่ม คนก็รู้ดีว่าแกไม่ปกติแต่ต้องเอา เพราะแกเคยบวชอยู่วัดพระธรรมกาย แต่วัดบอกว่าแกแทบไม่เคยจำพรรษาที่วัด เพราะแกไปเรียนหนังสือ แต่เรียนไม่ทันจบแกเกิดอยากดังจะช่วยคดีเด็กหนุ่ม โจนาธาน ดูดี้ ที่ฆ่าพระไทยวัดพรหมคุณารามตายยกวัดในอเมริกา ซึ่งข่าวนี้ดังไปทั่วโลก แกคงคิดว่าถ้าแกช่วยจนชนะแกจะดังไปทั่วโลกเช่นกัน เจ้าอาวาสไม่เห็นด้วยท่านส่งให้เรียนก็เพื่องานพระศาสนา คงประมาณธุระไม่ใช่ อันนี้ผมคิดเองนะครับ! แกเลยแค้นฝังหุ่นลาออกจากวัดเพื่อทำคดีปรากฏหลักฐานชัดเจนเด็กโดนคดีติดคุก แกเลยซมซานกลับมาขออยู่วัดต่อ แต่วัดบอก ให้มาเป็นพระอาคันตุกะก็ได้ คือปฏิเสธแบบการทูตนั้นเอง แกเลยผูกโกรธจนทุกวันนี้
พวกอยากดังก็โผล่มาอีกเพราะคงเชื่อว่า ใครยุ่งกับเรื่องวัดพระธรรมกายจะดัง ก็คิดกันสั้นๆ แค่นี้แหละครับ สังคมไทยถึงได้วุ่นวายก้าวเข้าสู่ความหายนะทางศีลธรรม
เพราะคนที่มีความแค้นชี้นำไม่คำนึงถึงความเสียหายของชาติและพระศาสนา คนเสพสื่อก็เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นและแสวงหาผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม สังคมไทยจะไปทิศทางใด มีใครที่เข้าร่วมชี้นำอีก
พรุ่งนี้มาฟังกันต่อ สำหรับวันนี้ แค่นี้ก่อนนะครับ
พ. ริมฝั่งอโนมา